วันพุธที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

เทคโนโลยีด้านระบบสารสนเทศที่ช่วยสร้างสารสนเทศ

  Electronic Data Interchange (EDI)

EDI  คือ... ?
Electronic Data Interchange (EDI) หมายถึง การแลกเปลี่ยนข้อมูลธุรกิจ ที่ใช้อยู่เป็นประจำในรูปแบบมาตรฐานผ่านทางคอมพิวเตอร์ รูปแบบมาตรฐานที่ใช้จะต้องได้รับการยอมรับจากกลุ่มผู้แลกเปลี่ยนข้อมูล หรือเลือกมาจากมาตรฐานที่พัฒนาจากสถาบันที่ได้รับการยอมรับในการออกมาตรฐานต่าง ๆ เช่น American National Standard Institute (ANSI) หรือ International Standards Organization (ISO) EDI เป็นเทคโนโลยีหลักที่ใช้ในธุรกิจอิเลคทรอนิกส์ (Electronic Commerce) เอกสารจำพวกใบสั่งซื้อ, ใบเสนอราคา, ใบกำกับสินค้า และเอกสารอื่น ๆ เมื่อนำ EDI มาใช้แทนได้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากเช่นเดียวกับเทคโนโลยีอื่น ๆ EDI ไม่ได้เป็นเป้าหมายโดยตัวของมันเอง เมื่อได้ใช้งานจะเกิดผลประโยชน์ทางด้าน IT เช่น ลดค่าใช้จ่ายในการคีย์ข้อมูล, ได้ข้อมูลที่ถูกต้องมากขึ้น, ติดต่อสื่อสารได้รวดเร็วขึ้น และลดงานทางด้านเอกสารซึ่งจะช่วยในการตัดสินใจให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ระบบอีดีไอ ทำงานอย่างไร
การแลกเปลี่ยนเอกสารธุรกิจในระบบอีดีไอ มีขั้นตอนการทำงานระหว่าง เครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ส่งกับเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้รับ ดังนี้
1. ผู้ส่งเอกสารอีดีไอ (Sending System)
- เริ่มต้นผู้ส่งต้องมีโปรแกรม (In House Application) สำหรับบันทึกข้อมูลของเอกสารต่าง ๆ เช่น invoice ใบขนสินค้า เป็นต้น โปรแกรมนี้ผู้ส่งอาจจะพัฒนาเองหรือซื้อที่เขาพัฒนาเสร็จแล้วก็ได้
- ผู้ส่งบันทึกรายละเอียดของเอกสารต่าง ๆ เข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์
- ผู้ส่งตรวจสอบความถูกต้องครบถ้วน ของข้อมูลที่บันทึกเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ อีกครั้งก่อนที่จะส่งไปให้เครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้รับ
- ผู้ส่งสั่งให้เครื่องคอมพิวเตอร์ของตนส่งข้อมูลไปให้เครื่องคอมพิวเตอร์ ของผู้รับเมื่อได้รับคำสั่ง เครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ส่งก็จะทำการคัดแยกข้อมูล ที่ต้องการส่ง (Extracted Data) จากฐานข้อมูล (DB file) ให้อยู่ในรูปที่พร้อมจะถูกแปลงเป็นเอกสารอีดีไอ
- ซอฟแวร์อีดีไอ (Translation Software) จะทำการแปลงข้อมูลที่ต้องการส่งให้อยู่ในรูปของเอกสารอีดีไอหรือที่เรียกว่า เอกสารอิเล็กทรอนิกส์ เช่น EDIFACT Format
- จากนั้นก็เป็นหน้าที่ของชุดคำสั่งสำหรับการติดต่อสื่อสารข้อมูล (Communication Protocol เช่น VAN Protocol หรืออื่น ๆ) ที่จะส่งข้อมูลไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ให้บริการอีดีไอ
2. ผู้ให้บริการอีดีไอ (VANS: Value added Network System)
เครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ให้บริการอีดีไอจะดำเนินการดังต่อไปนี้
- ตรวจสอบสิทธิการใช้บริการอีดีไอของผู้ส่ง เช่น ตรวจสอบรหัสผ่าน เป็นต้น
- เมื่อได้รับข้อมูลจากผู้ส่งแล้วทำการแปลงข้อมูลจากมาตรฐาตหนึ่ง ไปเป็นอีกมาตรฐานหนึ่งในกรณีที่ผู้ส่ง และผู้รับใช้มาตรฐานอีดีไอแตกต่าง (Optional)
- ตรวจสอบข้อมูลว่าตรงตามมาตรฐานหรือไม่ (Optional)
- นำเอกสารอีดีไอที่ได้รับจากผู้ส่ง ไปเก็บไว้ใน Mailbox (ตู้ไปรษณีย์) ของผู้รับ
3. ผู้รับเอกสารอีดีไอ (Receiving System)
เครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้รับจะดำเนินการดังต่อไปนี้
- ผู้รับติดต่อมายังเครื่องของผู้ให้บริการอีดีไอผ่านเครือข่ายสื่อสาร เช่น โทรศัพท์ เพื่อรับเอกสารที่อยู่ใน Mailbox ของตน
- อ่านเอกสารอีดีไอ (ในรูป ของ EDIFACT Format) จาก Mailbox ของตน และส่งข้อความตอบรับแจ้งให้ผู้ส่งทราบว่าได้รับข้อมูลเรียบร้อยแล้ว
- ซอฟแวร์อีดีไอ (Translation Software) จะทำการแปลงเอกสารอีดีไอให้อยู่ในรูปแบบที่ผู้รับเอาไปใช้งานภายในองค์กรได้
- เครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้รับจะนำข้อมูลที่ผ่านการแปลงเรียบร้อยแล้ว (Deformated data) มาทำการประมวลผล และจัดเก็บลงในฐานข้อมูล (DB file)

 ประโยชน์โดยทั่วไปของระบบ EDI
ปัจจุบันได้มีการนำระบบ EDI มาใช้กันอย่างแพร่หลาย เนื่องจากเป็นระบบที่สามารถให้ประโยชน์สูงในการแข่งขันทางธุรกิจ ประโยชน์โดยทั่วไปของ EDI สามารถแบ่งได้เป็น 3 ระดับ คือ
1. ประโยชน์ทางตรง
ลดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับจัดการเอกสาร
EDI ทำให้ธุรกิจสามารถลดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการจัดการเอกสาร ซึ่งเกิดขึ้นในระบบการค้าแบบเดิมที่ ทำการติดต่อกันด้วยเอกสารได้ ค่าใช้จ่ายส่วนที่ลดได้ อาทิ
- ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการจัดทำเอกสารโดยตรง เช่น ค่าใช้จ่ายสำหรับเอกสาร และพนักงานในกระบวนการรับเอกสาร การจับคู่เอกสาร การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลในเอกสาร การคัดลอกเอกสาร การประมวลผล การออกเอกสารต่อเนื่อง การจัดเก็บเอกสาร และการส่งเอกสารไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งภายในและภายนอกองค์กร
- ค่าใช้จ่ายสำหรับความผิดพาดที่เกิดขึ้นในระบบเอกสาร เช่น ค่าใช้จ่ายอันเนื่องมาจากก ารสูญหายของเอกสารระหว่างการเดินทาง และจากความผิดพลาดในการบันทึกข้อมูลจากเอกสารต้นฉบับ
- ค่าใช้จ่ายสำหรับเวลาที่ใช้ในกระบวนการส่งข้อมูลด้วยเอกสาร เช่น เวลาที่ต้องรอในแต่ละขั้นของการทำงาน ในขบวนการจัดการเอกสาร และเวลาที่ใช้ในการส่งเอกสารระหว่างองค์กร
2. ประโยชน์ทางอ้อม
เพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการทางธุรกิจ
ความถูกต้องของข้อมูลจากการใช้ EDI รวมทั้งวงจรธุรกิจที่สั้นลง สำหรับทุกขบวนการทางธุรกิจตั้งแต่การซื้อ การขาย จนกระทั่งถึงการรับเงินและจ่ายเงิน จะทำให้เกิดการเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการทางธุรกิจ ในส่วนต่าง ๆ เช่น
- ลดจำนวนสินค้าคงคลัง
- กระชับความสัมพันธ์ระหว่างคู่ค้าทางธุรกิจ และสนับสนุนการใช้ระบบ JUST IN TIME
- พัฒนาบริการลูกค้า
- พัฒนาการใช้เงินทุนหมุนเวียน
- พัฒนาระบบข้อมูลเพื่อการบริหาร และเพิ่มประโยชน์จากการใช้ฐานข้อมูลเดียวกัน
3. ประโยชน์ทางกลยุทธ์
เป็นเครื่องมือสนับสนุนในการบรรลุถึงเป้าหมายองค์กร
ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นในกระบวนการทางธุรกิจ จากการใช้ EDI สามารถใช้เป็นเครื่องมือ ในการสนับสนุนให้เกิดผลตามเป้าหมายขององค์กร ที่วางไว้ได้ เช่น การสร้างพันธมิตรทางการค้าใหม่ ๆ การเข้าสู่ตลาดใหม่ การออกผลิตภัณฑ์/บริการใหม่ การเป็นผู้นำในตลาด และความอยู่รอดขององค์กร 


 ที่มา :http://www.logisticsthaiclub.com/index.php?mo=3&art=292238

เทคโนโลยีใหม่ในด้านการสื่อสารข้อมูล

เทคโนโลยี 4G ( Forth Generation )

เทคโนโลยี 4จี เป็นเครือข่ายไร้สายความเร็วสูงชนิดพิเศษ หรือเป็นเส้นทางด่วนสำหรับข้อมูลที่ไม่ต้องอาศัยการลากสายเคเบิล โดยระบบเครือข่ายใหม่นี้ จะสามารถใช้งานได้แบบไร้สาย รวมถึงคุณสมบัติการเชื่อมต่อเสมือนจริงในรูปแบบสามมิติ (three-dimensional) ระหว่าง ผู้ใช้โทรศัพท์ด้วยกันเอง นอกจากนั้น สถานีฐาน ซึ่งทำหน้าที่ในการส่งผ่านสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่จากเครื่องหนึ่งไปยังอีก เครื่องหนึ่ง และมีต้นทุนการติดตั้งที่แพงลิ่วในขณะนี้ จะมีให้เห็นกันอย่างแพร่หลายเช่นเดียวกับหลอดไฟฟ้าตามบ้านเลยทีเดียว สำหรับ 4จี จะสามารถส่งผ่านข้อมูลแบบไร้สายด้วยระดับความเร็วสูงที่เพิ่มขึ้นถึง 100 เมกะไบต์ต่อวินาที ซึ่งห่างจากความเร็วของชุดอุปกรณ์ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ที่ระดับ 10 กิโลบิตต่อวินาที


แล้ว 4G ใช้เทคโนโลยีอะไรเพื่อรองรับความสามารถทั้ง 2 นี้ ?

เทคโนโลยีที่ใช้รองรับระบบ 4G มีอยู่ 2 เทคโนโลยีด้วยกัน ซึ่งก็คือ
1) WiMAX: ปัจจุบันเทคโนโลยี 4G ที่กำลังใช้กันอยู่ก็คือ WiMAX ซึ่งWiMAX ได้ใช้คลื่นไมโครเวฟที่มีความถี่สูง (10-66GHz) เป็นตัวส่งข้อมูลและจากคลื่นความถึ่นี้ข้อมูลที่ส่งจะเป็นไปได้ในจำนวนมาก และรวดเร็วเพราะสามารถส่งได้ด้วย High Bit Rate ซึ่ง เป็นข้อเด่นของเทคโนโลยี WiMAX อย่างไรก็ตาม WiMAX ก็ยังคงมีจุดอ่อนในเรื่องความสามารถในการเคลื่อนย้าย (Mobility) ของตัวเครื่องรับสันญาณหรือก็คือตัวโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์นั่นเอง ดังนั้นระบบ 4G แบบ WiMAX จะมีข้อจำกัดในเรื่องของพื้นที่ท่ี่ครอบคลุมบริการ ยกตัวอย่างเช่นสันญาณ 4G แบบ WiMAX จะครอบคลุมได้แค่บางพื้นที่ เช่น ภายในกรุงเทพ หรือ แค่ เกาะภูเก็ตเป็นต้น ระบบWiMAX ไม่สามารถครอบคลุมได้ทั้งประเทศไทย

 2) LTE: ชื่อเต็มของ LTE ก็คือ Long-Term Evolution ซึ่งเทคโนโลยี 4G แบบ LTE นี้ได้รับการสนับสนุนมาจากหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับ Mobile Internet Technology เนื่องจาก LTE นี้เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการพัฒนามาจากระบบ 3G ในปัจจุบัน ดังนั้น LTE จะถูกออกแบบมาเพื่อ Mobility and High Speed Internet อย่างไรก็ตามในปัจจุบัน LTE ยังอยู่ในขั้นตอนการศึกษาและยังไม่พร้อมที่จะนำมาใช้ได้จริง 

ทีมา : http://www.disrupzable.com/archives/945

ด้าน People ware ตำแหน่งงานด้าน IT

ตำแหน่งบุคลากรงานด้าน IT 
 
 1.  นักวิเคราะห์ระบบ  (System  Analysis)
 
คือ ผู้ที่เป็นตัวกลางในการติดต่อระหว่างระบบสารสนเทศกับกลุ่มผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ เจ้าของระบบ (System Owners) ผู้ใช้ระบบ (System Users) และผู้สร้างระบบ (System Builders) เพื่อพัฒนาระบบสารสนเทศขององค์กรขึ้นมา ทั้งนี้หน้าที่หลักของนักวิเคราะห์ระบบจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ วิเคราะห์ระบบ และออกแบบระบบ

หน้าที่ของนักวิเคราะห์ระบบสมัยใหม่  
          นอก จากหน้าที่หลักของนักวิเคราะห์ระบบสมัยใหม่ คือ การวิเคราะห์และออกแบบระบบ แล้วนักวิเคราะห์ระบบยังมีหน้าที่ที่ต้องดำเนินการอีกหลายหน้าที่ดังนี้
1. รวบรวมข้อมูล เป็นการรวบรวมข้อมูลของระบบเดิมเพื่อให้ทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้น และนำไปใช้เป็นข้อมูลส่วนหนึ่งในการพัฒนาระบบใหม่
2.   จัดทำเอกสาร ในระหว่างทำการพัฒนาระบบ นักวิเคราะห์ระบบจะต้องจัดทำเอกสารในแต่ละขั้นตอนให้ละเอียด
3.  จัดทำพจนานุกรมข้อมูล ( Data Dictionary ) เป็นการรวบรวมเอกสารทั้งหมด และอธิบายถึงสิ่งต่าง ๆ ที่ต้องมีการใช้งานในระบบ พจนานุกรมจัดเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องใช้ในการวิเคราะห์ระบบ
4.  ออกแบบระบบ นักวิเคราะห์ระบบจะต้องทำการออกแบบการทำงานของระบบใหม่ให้ตรงตามความต้องการ ของผู้ใช้ระบบ และมีความเหมาะสมมากที่สุด รวมทั้งออกแบบส่วนติดต่อผู้ใช้งาน และฮาร์ดแวร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศที่จะนำมาใช้งาน
5.  สร้างแบบจำลอง ทำการสร้างแบบจำลองของโปรแกรมที่พัฒนาขึ้นเพื่อนำเสนอแก่เจ้าของระบบและผู้ใช้งาน
6. ทดสอบโปรแกรมที่พัฒนาขึ้น ใน บางครั้งนักวิเคราะห์ระบบและโปรแกรมเมอร์จะเป็นผู้ทดสอบโปรแกรมเอง แต่หากให้ผู้ใช้งานระบบเป็นผู้ทดสอบจะมีประสิทธิภาพมากกว่า เพราะเป็นผู้ที่รู้และเข้าใจระบบงานอย่างแท้จริง
7.  ติดตั้งและทำการปรับเปลี่ยนระบบ ทำการติดตั้งและปรับเปลี่ยนระบบเดิมเป็นระบบใหม่
8.  จัดทำคู่มือ จัดทำคู่มือและจัดเตรียมหลักสูตรฝึกอบรมให้แก่ผู้ใช้ระบบ เนื่องจากเป็นการเปลี่ยนแปลงของระบบ
9. บำรุงรักษาและประเมินผลการปฏิบัติงานของระบบ เป็นการดูแลระบบเมื่อมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น รวมทั้งเป็นการปรับปรุง ดัดแปลง หรือแก้ไขทั้งโปรแกรมและขั้นตอนการทำงานของระบบ เพื่อให้ระบบมีการทำงานที่ถูกต้องมากที่สุดจัดทำแบบสอบถามถึงผลการดำเนินงาน ของระบบใหม่ที่ได้ติดตั้งไปแล้ว
10. ป็นผู้ให้คำปรึกษา คอยให้คำปรึกษาแก่ผู้ใช้ระบบและทุกคนในระบบ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านการใช้โปรแกรมหรือทางด้านเทคนิคก็ตาม
11. เป็นผู้ประสานงาน ทำหน้าที่ประสานงานระหว่างทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาระบบ เพื่อให้เข้าใจเหตุการณ์หรือข้อมูลที่เกิดขึ้นภายในองค์กรได้ถูกต้องตรงกัน ที่สุด
 
คุณสมบัติของนักวิเคราะห์ระบบสมัยใหม่
 
นักวิเคราะห์ระบบที่ดียังจะต้องประกอบไปด้วยคุณสมบัติดังต่อไปนี้
1. มีความชำนาญหลากหลายในศาสตร์คอมพิวเตอร์ เช่น โปรแกรมคอมพิวเตอร์ โปรแกรมภาษาฮาร์ดแวร์  เทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นต้น
2. มีความเข้าใจในระบบธุรกิจ ระบบการเงิน และระบบการตลาด เป็นอย่างดี
3. มีความเข้าใจในความต้องการของผู้ใช้ระบบเป็นอย่างดี
4. ต้องเป็นนักสำรวจ ที่ช่างสังเกตในรายละเอียดในรายละเอียดต่าง ๆ ของระบบ รวมทั้งองค์ ประกอบภายนอก   ที่เกี่ยวข้องกับ  ระบบ
5. มีจรรยาบรรณต่อองค์กรที่พัฒนาระบบให้ ไม่นำข้อมูลที่ได้ซึ่งเป็นความลับขององค์กรไปเผยแพร่ภายนอกอันก่อให้ เกิดผลเสียแก่องค์กร
6. ต้องทำงานเป็นทีมได้อย่างดี
7. มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี เนื่องจากนักวิเคราะห์ระบบต้องมีการติดต่อประสานงานระหว่างบุคคลหลายกลุ่ม
8. สามารถเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ได้ด้วยตนเอง
9. มีความสามารถในการนำเสนอข้อมูลให้ทั้งผู้บริหารระดับสูงรวมไปถึงผู้ใช้ระบบ ให้สามารถเข้าใจได้โดยง่ายและตรงกัน
10. มีความสามารถในการติดต่อสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษได้ดี หากองค์กรนั้นสื่อสารภายในเป็นภาษาอังกฤษ
11. สามารถทำงานภายในภาวะกดดันได้ เนื่องจากต้องทำงานกับบุคคลหลายฝ่าย
12. เป็นนักจิตวิทยา ในการที่จะพูดคุยหรือติดต่อกับกลุ่มบุคคลหลายกลุ่มเพื่อให้ได้ข้อมูลอย่าง ถูกต้อง
ที่มา : http://classroom.hu.ac.th/courseware/SA/chapter1/ch1_5.html
2.  ผู้เขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์  (Programmer)
คือ  ผู้ เขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ มีหน้าที่นำข้อมูลการออกแบบรายละเอียดของระบบงานจาก การวิเคราะห์ระบบโดยผู้วิเคราะห์ระบบงานมาวางแผน และจัดทำแผนภูมิ เขียนเป็นโปรแกรมสำหรับระบบต่างๆ เพื่อประมวลผลด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยภาษาที่ใช้ในการเขียนจะแตกต่างกันไปตามลักษณะเครื่องระบบฐานข้อมูล ทำการทดสอบระบบที่พัฒนาให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตกลงไว้ และส่งมอบให้ผู้วิเคราะห์ระบบงาน และทำการทดสอบระบบโดยรวม เพื่อหาข้อผิดพลาดและแก้ไขก่อนที่จะนำไปใช้งานจริง 

ลักษณะของงานที่ทำ  
รับรายละเอียดของความต้องการของผู้ใช้ระบบ (User) จากนักวิเคราะห์ระบบ (System Analyst) จัดทำแผนภูมิ (Flowchart) ขั้นตอนการทำงานที่ละเอียด และถูกต้องตามหลักวิชา เพื่อประโยชน์ในการเขียนโปรแกรมสำหรับการประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์
วิเคราะห์ แผนภูมิหรือแผนผังสายงาน แต่เพียงบางส่วนหรือทั้งหมด โดยนำความรู้เกี่ยวกับวิสัยสามารถของระบบคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่มาใช้สร้าง หรือกำหนดลำดับขั้นของการประมวลผล (โปรแกรม)
ปรึกษา หารือกับผู้ควบคุมงานและผู้แทนของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาแก้ไขปัญหาที่สำคัญ ในการทำโปรแกรม เพื่อให้ผลจากเครื่องประมวลผลตามต้องการในเรื่องข้อมูลที่จะนำเข้าระบบ ขอบเขตของการเขียนโปรแกรม การใช้รหัส และการดัดแปลงเพิ่มเติม
ตรวจ สอบภายในและการควบคุมต่างๆ เขียนแผนภูมิสายงานที่ถูกต้องละเอียดตามหลักวิชาให้เป็นรูปสัญลักษณ์เพื่อ ใช้แทนลำดับขั้นของข้อมูล ที่จะประมวลผลด้วยระบบคอมพิวเตอร์ และเพื่อเป็นการอธิบายถึงการนำข้อมูลมาส่งเข้าหรือนำออกมาจากเครื่อง
เปลี่ยนแผนภูมิสายงานที่ละเอียดและถูกต้องตามหลักวิชาการให้เป็นภาษาที่ใช้กับการประมวลผลข้อมูลด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์
ทดสอบ โปรแกรมด้วยข้อมูลตัวอย่าง ทดสอบความถูกต้องของโปรแกรม ใช้ข้อมูลตัวอย่างหรือ ข้อมูลจริงส่งเข้าเครื่องคำนวณ เพื่อทดสอบโปรแกรมที่เข้ารหัสแล้วกับเครื่องคำนวณ และแก้ไขความคลาดเคลื่อนของผังประมวลผลโปรแกรมใหม่ให้ถูกต้อง
จัด เตรียมข้อสั่งหรือคู่มือการใช้งานระบบนั้นๆ และชี้แจงให้เจ้าหน้าที่ผู้ใช้เครื่องได้ใช้เป็นแนวทางในการทำงาน วิเคราะห์ ตรวจสอบและเขียนผังประมวลผลโปรแกรมใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติ งาน หรือเพื่อดัดแปลงแก้ไขให้เป็นไปตามความต้องการ ประมวลเอกสารหลักฐานของการพัฒนาโปรแกรม และการแก้ไขเปลี่ยนแปลงโปรแกรม อาจชำนาญในการเขียนโปรแกรมสำหรับเครื่องจักรคำนวณแบบใดแบบหนึ่ง หรือประเภทใดประเภทหนึ่งโดยเฉพาะ 

สภาพการทำงาน  
ผู้ปฏิบัติงานโปรแกรมคอมพิวเตอร์-Computer-Programmer จะ ต้องใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ในการเขียนและทดสอบ ดังนั้นสภาพทำงานจะเป็นสำนักงานที่มีอุปกรณ์ สิ่งอำนวยความสะดวกเช่นสำนักงานทั่วไป จะมีการออกไปติดต่อผู้ใช้งานระบบเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมบ้างเป็นครั้งคราว
งานเขียนโปรแกรมเป็นงานที่ต้องนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน วันหนึ่งประมาณ 6-7 ชั่วโมง หรือมากกว่านั้น ต้องใช้ประสาทสัมผัสของสายตาและมือ บางครั้งอาจมีปัญหากับสายตาได้ เนื่องจากอยู่กับจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน 

คุณสมบัติ
ผู้ประกอบโปรแกรมคอมพิวเตอร์-Computer-Programmer อย่าง น้อยต้องสำเร็จปริญญาตรีทางด้านคอมพิวเตอร์ มีความรู้ในการเขียนภาษาคอมพิวเตอร์ มีทักษะทางด้านคณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษ ควรมีความคิดสร้างสรรค์ และซื่อสัตย์ในอาชีพ ไม่ใช้ความรู้ความสามารถในวิชานี้ ดัดแปลงโปรแกรมหรือข้อมูลเพื่อประโยชน์ส่วนตัว มีความรับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมาย ควรจะมี มนุษยสัมพันธ์ที่ดีเนื่องจากเป็นหน่วยงานที่ให้บริการในการให้ใช้งาน คอมพิวเตอร์ และผู้ใช้ระบบงานอาจจะต้องการความช่วยเหลือและคำแนะนำในด้านการใช้งานจึง ต้องมีความสามารถชี้แจง ให้ข้อเสนอแนะในการปฏิบัติงานให้แก่ผู้ใช้ระบบงาน รวมทั้งต้องรับฟังความคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะจากผู้อื่น


 3.  ผู้ดูแลและซ่อมบำรุงเครื่องคอมพิวเตอร์  (Supporter)
หมายถึงผู้ดูแลและคอยตรวจสอบสภาพเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อให้มีสภาพความพร้อมที่จะทำงานได้ตลอดเวลา   กลุ่มนี้จะเรียนรู้เทคนิคการรักษา  ดูแลเครื่องคอมพิวเตอร์  ตลอดการต่อเชื่อม  ตลอดจนการใช้งานโปรแกรมต่างๆ  ค่อนข้างดี

ลักษณะงานที่ทำ   
 - ตรวจ เช็คซ่อมบำรุงรักษาเครื่องคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ต่อพ่วงต่าง ๆ ของทางบริษัท และติดต่อประสานงานกับผู้ขายเพื่อการรับประกันสินค้าได้ ในกรณีที่คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์นั้น ๆ ยังอยู่ในระยะเวลารับประกัน
- ดูแลระบบ LAN, WAN, VDO Conference ภายในบริษัทและระหว่างสาขาที่อยู่ต่างประเทศเช่น จีน, ไต้หวัน,เยอรมัน, อินเดีย, สโลวะเกีย และ เม็กซิโก และจัดการระบบ Domain ขององค์กร รวมไปถึงการดูแลรักษาตู้  Network Rack และ Network Cable ต่าง ๆ ในระบบเครือข่ายของบริษัท
- แก้ไข ให้คำปรึกษาแก่ผู้ใช้งานในบริษัทในกรณีที่คอมพิวเตอร์หรือโปรแกรมสำเร็จรูป ที่มีปัญหา ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ รวมทั้งหมดประมาณ 2000 กว่าคน ในแบบการเดินทางไปแก้ไขปัญหายังโต๊ะทำงานของผู้ใช้งาน(On site), สนทนาทางโทรศัพท์, ผ่าน e-mail ขององค์กร (MS Outlook) และการรีโมทไปแก้ปัญหาให้ผู้ใช้(Remote Desktop, Net meeting) โดยไม่ต้องเดินทางไปทำด้วยตัวเอง- พัฒนาเว็บบอร์ดภายในให้กับแผนก IT ของบริษัท เพื่อติดต่อภายในแผนก โดยใช้ภาษา PHP และ MySQL
- สามารถติดตั้งและใช้งานโปรแกรมสำเร็จรูป Microsoft Office และโปรแกรมพื้นฐานอื่น ๆ ได้เป็นอย่างดี
- แก้ไขปัญหาและติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 98, me, 2000, XP, Vistaรวมไปถึง Driver, Service Pack, Patch, Hot fix ต่าง ๆ
- วิเคราะห์ แก้ไขปัญหาไวรัส คอมพิวเตอร์และความผิดปกติต่าง ๆ ของระบบคอมพิวเตอร์เลือกใช้เครื่องมือในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ของคอมพิวเตอร์ได้เป็นอย่างดี 

คุณสมบัติ
1.  มีความรู้ในการดูแล และ แก้ไขปัญหา ระบบ Network, Lan , Wireless, Hardware, Software ได้
2.  สามารถติดตั้ง Install และ Setup ระบบ Linux Server + Service ต่าง ๆ ได้
3.  หากมีความรู้ในด้าน Install และ Setup ระบบ Windows Server 2003/2008, E-mail Exchange จะพิจารณาเป็นพิเศษ
4.  หากมีความรู้ในด้าน พัฒนาโปรแกรม PHP, MySql และ CMS ต่าง ๆ จะพิจารณาเป็นพิเศษ

ที่มา  http://www.jobthaiweb.com/company/jobseekerdetail.php?IDjobseeker=0000125572

 4.  ผู้บริหารระบบคอมพิวเตอร์  (System  Manager)
 เป็นผู้มีหน้าที่บริหารทรัพยากรทุกชนิดที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่องค์กร จะทำหน้าที่กำหนดทิศทาง นโยบายและแผนงานทางคอมพิวเตอร์ในองค์กรทั้งหมดว่า ควรเป็นไปในรูปแบบใด การขยายงานทางด้านธุรกิจขององค์กรที่รวดเร็ว ควรจะมี การปรับ เพิ่ม ลด องค์ประกอบทางด้านคอมพิวเตอร์ส่วนใดอีกบ้างที่จะทำให้เป็น ไปตามเป้าหมายโดยรวมมากที่สุด
  •  ผู้ที่มีหน้าที่ดูแลและบริหารระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขององค์กร
  • เกี่ยว ข้องกับลักษณะงานด้านเครือข่ายโดยเฉพาะ เช่น การติดตั้งระบบเครือข่ายการควบคุมสิทธิของผู้ที่จะใช้งาน การป้องกันการบุกรุกเครือข่าย เป็นต้น
  • มีความชำนาญเกี่ยวกับระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์เป็นอย่างดี และต้องมีทักษะในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที
ที่มา  http://maitree.bus.ubu.ac.th/wordpress/?page_id=109

 5.  ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์  (User)

หมายถึงผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ทั่วไป   สามารถทำงานตามหน้าที่ในหน่วยงานนั้นๆ  เช่น  การพิมพ์งาน   การป้อนข้อมูลเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์   การส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์   เป็นต้น  ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านเทคนิคต่างๆ  ของคอมพิวเตอร์ก็ได้

ลักษณะงาน
  • ร่างแบบเว็บไซต์ (Mockup) เพื่อให้ทีมงานเข้าใจหน้าตาคร่าวๆ ของเว็บได้
  • ใช้ Photoshop เพื่อพัฒนาจาก Mockup เป็น Graphic ที่สวยงาม
  • แปลงภาพที่ออกแบบให้เป็นหน้าเว็บด้วย XHTML + CSS (Tableless Design)
  • ออกแบบ Logo, Icon, Emoticon ต่างๆ ที่ใช้ภายในเว็บไซต์
  • ทดสอบความเข้ากันได้ระหว่างเบราว์เซอร์ Internet Explorer 7 ขึ้นไป, Firefox, Chrome
คุณสมบัติ
มีความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบหน้าเว็บไซต์ รู้จักทฤษฎีสี รู้จักการจัดวางองค์ประกอบต่างๆ อย่างลงตัว
ใช้ภาษา XHTML + CSS เป็นภาษาที่สองรองจากภาษาไทย
ถ้าเขียน HTML5, Flash, JavaScript, jQuery, jQuery Mobile, PHP ได้ เข้าใจมาตรฐาน WCAG เพื่อการทำเว็บให้คนตาบอดเข้าถึงได้ง่าย จะถูกใจให้ Give
ใส่ใจความรู้สึกของผู้ใช้ และใส่ใจรายละเอียดในระดับพิกเซล

ที่มา  http://maitree.bus.ubu.ac.th/wordpress/?page_id=109



ด้าน Software Application, Utility, Tools ล่าสุดหรือน่าสนใจ

MAC OS X


Mac OS X คือระบบปฏิบัติการที่ล้ำหน้าที่สุดในโลก ซึ่งถูกสร้างมาบนระบบ UNIX ที่เชื่อถือได้ และออกแบบมาให้เรียบง่ายและเรียนรู้ได้ง่าย ทำให้ Mac เป็นอะไรที่สร้างสรรค์, ปลอดภัย, และใช้ร่วมกับอุปกรณ์ต่างๆได้

พลังของ UNIX กับความง่ายของ Mac
Mac OS X ทั้งใช้ง่ายและทรงพลัง เพราะทุกๆอย่างถูกออกแบบมาโดยคำนึงถึงความเรียบง่ายและ
สละสลวย ตั้งแต่การเปิดเครื่องจนถึงโปรแกรมที่ใช้เป็นประจำ ไม่ว่าจะดูเว็บ, เช็คเมล, หรือคุยวิ ดีโอแชทกับเพื่อนจากอีกซีกโลก*, ทุกอย่างทำได้ง่าย, เรียนรู้ง่าย และสนุก และเพราะการทำเรื่องไม่น่าเชื่อให้เป็นเรื่องง่ายๆ ต้องใช้ความล้ำหน้าทางเทคโนโลยีขั้นสูง Mac OS X จึงถูกสร้างมาบนระบบ UNIX ที่ มั่นคงและพิสูจน์ด้วยเวลาแล้วว่ามีความเสถียรที่ไม่มีใครเทียบได้และ ประสิทธิภาพสูง พร้อมกราฟฟิคที่น่าทึ่ง บวกกับความเป็นผู้นำในการรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆบนอินเตอร์เน็ท
ฮาร์ดแวร์และซอฟแวร์ที่เข้ากันอย่างสมบูรณ์
เพราะเครื่อง Mac และ ซอฟแวร์ในเครื่องทำจากบริษัทเดียวกัน จึงทำให้เข้ากันได้อย่างสมบูรณ์ทั้งระบบ อย่างเช่นระบบปฏิบัติการที่ใช้งานฮาร์ดแวร์ในเครื่องได้อย่างเต็ม ประสิทธิภาพทั้งเทคโนโลยี 64-bit, multicore processors และ GPUs, หรือ กล้อง iSight ที่ทำงานกับโปรแกรม iChat อย่างสมบูรณ์ โดยแค่คลิกก็ใช้วิดีโอแชทได้ทันที, Multi-Touchtrackpad ใน Mac โน๊ตบุ๊คที่ให้คุณใช้หลายนิ้วในการควบคุม ทั้งการลากนิ้วเข้าหากัน การเลื่อน 2 นิ้ว และอื่นๆ และช่วยประหยัดแบตเตอรี่โดยค่อยๆหยุดการหมุนของฮาร์ดดิสก์ขณะที่ไม่ใช้งาน, การแบ่งงานประมวลผลระหว่าง CPU และ GPU ให้เหมาะสมกับสิ่งที่ทำ, และลดความสว่างของจอในพื้นที่ที่มีแสงน้อย
กราฟฟิคเท่ๆใน interface ที่เรียบง่าย
ความสามารถที่เห็นชัดเจนที่สุดของ Mac คือหน้าตาการใช้งานที่สละสลวย เพราะกลไกทางกราฟฟิคที่ สร้างมาเพื่อให้สามารถใช้งานโปรเซสเซอร์กราฟฟิคที่ล้ำหน้าใน Mac ทุกเครื่องได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการแชทแบบกลุ่ม หรือภาพสะท้อนและแอนนิเมชั่นแบบ real-time, ทำให้ฟอนต์บนหน้าจอดูสละ สลวย และอ่านง่ายขึ้นมาก, และสังเกตหน้าต่างที่ใช้งานอยู่ได้ง่าย เพราะมีเงานุ่มๆทำให้รู้สึกว่าอยู่ด้านหน้า ภาพตัวอย่างของเอกสารที่ดูด้วย Quick Look ก็มีความละเอียดสูงเพื่อให้อ่านข้อความในนั้นได้ทันที และการรองรับไฟล์ PDF ในตัวทำให้สามารถเปิดดูและสร้างไฟล์ PDF จากเกือบทุกโปรแกรมในระบบ
ปลอดภัยโดยธรรมชาติ
Mac OS X สามารถปกป้องตัวเองจาก PC ไวรัสและโปรแกรมที่มุ่งร้ายต่างๆ โดยที่คุณไม่ต้องทำอะไรเลย เพราะออกแบบมาในโลกยุคอินเตอร์เน็ท Mac OS X จึงมาพร้อมเทคโนโลยีป้องกันภัย online มากมาย และเพราะ Mac ทุกเครื่องส่งขายโดยตั้งค่ามาให้ปลอดภัยตั้งแต่ต้น, คุณจึงไม่ต้องกังวลกับการปรับแต่งให้ยุ่งยาก และไม่ต้องเสียเวลากับ security alert หรือการ scan ไวรัส, นอกจากนั้น Apple ยังคอยดูแลเรื่องภัย online อย่างทันท่วงที และส่งอัปเดทตรงเข้าเครื่อง Mac ของคุณโดยอัตโนมัติ

สร้างมาให้ใช้กับคนอื่นได้

ความหลากหลายของ Mac OS X ทำให้ใช้ได้แทบทุกที่ ทั้งเน็ทเวิร์คของ Windows, การเชื่อมต่อกับกล้องดิจิตอล, ปริ้นเตอร์ และอุปกรณ์ต่างๆแทบทุกชนิดโดยไม่ต้องดาวน์โหลด driver แยกต่างหาก และสามารถเปิดไฟล์ที่เป็นที่นิยมอย่าง JPG, MP3 รวมถึงไฟล์ Microsoft Word, Excel และ PowerPoint นอกนั้นยังรองรับมาตรฐานไฟล์ PDF ทำให้คุณแชร์งานกับเพื่อนร่วมงานได้ง่ายๆ ไม่ว่าเค้าจะใช้ Mac หรือ PC และสามารถเปิดดูหรือสร้างไฟล์ PDF ได้จากเกือบทุกโปรแกรมในระบบ บวกกับความสามารถในการใช้ระบบปฏิบัติการ Windows บนเครื่อง Mac และการรองรับ Microsoft Exchange Server เวอร์ชั่นล่าสุดใน

ใครๆก็สร้างสรรค์ได้

Mac OS X มาพร้อมเทคโนโลยีต่างๆที่ช่วยให้ผู้พิการใช้ Mac ได้ง่ายขึ้น โดยมีความสามารถหลาก หลายที่ระบบปฏิบัติการอื่นไม่เคยมี เช่น VoiceOver ที่ช่วยอ่านทุกอย่างบนจอ และทำให้ผู้พิการทางสายตาสามารถควบคุมคอมพิวเตอร์โดยการคีย์คำสั่งและการวาด นิ้วแบบต่างๆบน Multi-Touch trackpad รวมถึงการรองรับ braille display กว่า 40 ชนิดทั้งแบบต่อสายและแบบ Bluetooth นอกนั้นยังมีความสามารถในการช่วยเหลืออีกมาก เช่น การซูมหน้าจอแบบ dynamic, การแสดง closed caption ในวิดีโอ, และการปรับขนาดจอภาพ
 เสถียรถึงแก่น
เพราะ Mac OS X สร้างมาบนระบบ UNIX ที่ใช้ใน server ของอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ทำให้มั่นใจได้ว่าจะเจอเรื่องระบบค้างหรือแฮงค์น้อยมากๆ แม้แต่การอัปเกรดสู่ Mac OS X เวอร์ชั่นต่อไปก็ง่ายและเชื่อถือได้ โดยที่ไม่ต้อง format ฮาร์ดไดรฟ์ใหม่ ทำให้ไม่ต้องกังวลกับการลงโปรแกรม การถ่ายโอนข้อมูล และการตั้งค่าใหม่ โดยจะมีการตรวจโปรแกรมทุกตัวว่าสามารถใช้งานได้กับรุ่นใหม่ และแยกตัวที่ใช้ไม่ได้เอาไว้ ถ้าเกิดไฟดับระหว่าง install ก็เริ่มใหม่ได้โดยที่ข้อมูลไม่หาย หรือถ้าคุณลบไฟล์โดยบังเอิญ ก็สามารถกลับไปเรียกคืนมาได้จาก backup ใน Time Machine
เต็มความสามารถ
Mac OS X จะรวมทุกความสามารถไว้ในเวอร์ชั่นเดียว พร้อมกับโปรแกรมที่สละสลวยมากมาย ที่ให้คุณเล่นเว็บ, จัดการ contact, แชททั้งแบบเห็นหน้าและแบบ text หรือทำเรื่องในชีวิตประจำวันต่างๆ และที่สำคัญที่สุดคือทำให้คุณทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และสนุกไปกับทุกอย่างที่ทำ
 ที่มา :http://www.apple.com/th/macosx/what-is-macosx/#aboutunix

 Applicatino  Software
 Office  For  Mac  2011  ตัวใหม่มาพร้อม  Outlook!

Microsoft ประกาศวางจำหน่ายโปรแกรมทำงานด้านเอกสาร Office 2011 สำหรับเครื่องMac เวอร์ชั่นล่าสุดอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวานนี้ โดยในเวอร์ชั่นนี้ได้มีการตัดทอนฟังก์ชั่น Entourage for Outlook และเพิ่มแอพพลิเคชั่นด้านการใช้งานออนไลน์ Office Web มาแทน ซึ่งเป็นแอพพเป็นลิเคชั่นที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้ผู้ใช้สามารถแก้ไขเอกสารไฟล์ Word, Excel, PowerPoint และ OneNote บนอินเทอร์เน็ต

นอกจากนี้ โปรแกรม Office เวอร์ชั่นนี้ยังสามารถทำงานข้ามแพลตฟอร์ม รวมถึงมีการปรับปรุงในเรื่องของความเร็ว และประสิทธิภาพในการทำงานให้ดีขึ้น และเป็นการเปิดตัวครั้งแรกของอินเทอร์เฟสเมนูที่มีชื่อว่า Ribbon หลังจากที่เป็นส่วนหนึ่งของเวอร์ชั่น Window Office 2007 มาเสียนานอีกด้วย Office 2011 รุ่นล่าสุดพร้อมจำหน่ายในสามเวอร์ชั่นด้วยกัน โดยในรุ่น Home and Student จะมาพร้อมกับการใช้งาน Word, Excel, PowerPoint และMessenger สนนราคาที่ 150 เหรียญ ขณะที่รุ่น Home and Business ที่มีการนำเอาการใช้งาน Outlook สำหรับเครื่องMac เวอร์ชั่นใหม่ใส่เข้ามาด้วย จะมีราคาที่ 280 เหรียญ ตามหลังด้วยรุ่นสุดท้ายAcademic ที่มาพร้อมกับแอพพลิเคชั่นการใช้งานแบบออนไลน์ พร้อมด้วยส่วนลด 100 เหรียญ กับระยะเวลาจำกัดการใช้งาน ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปสั่งซื้อได้แล้ววันนี้ที่เว็บไซต์ Apple หรือMicrosoft

นอกจากนี้ในเวอร์ชัน 2011 นี้ยังเป็นครั้งแรกที่ Microsoft ได้ใส่โปรแกรม MS Outlook โปรแกรมรับส่งเมล์ยอดฮิตของผู้ใช้ Windows มาแทน Entourage ที่กระแสตอบรับไม่ค่อยเวิร์กเท่าไหร่มาด้วย

ที่มา : http://board.nickcs.com/index.php?topic=10927.0

Utility Software 


           Utility Software หมาย ถึง ซอฟต์แวร์อื่น ๆ ที่สร้างขึ้นมาเพื่อสนับสนุนการทำงานด้านอื่น ๆ ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งมีอยู่มากมาย ไม่สามารถจำแนกเป็นกลุ่ม ๆ ได้ทั้งหมด ได้แก่ โดยทั่วไปเป็นซอฟต์แวร์ที่สร้างขึ้นเพื่อช่วยการจัดการระบบคอมพิวเตอร์ให้มี ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เช่

Norton AntiVirus 2011 Review [สุดยอดการป้องกันไวรัส]

 
ไซแมนเทค(Symantec) มีการปรับปรุง Norton AntiVirusและ Norton Internet Security Suites ทุกๆ ปีและปัจจุบันนี้ก็มาถึงรุ่น2011 ไซแมนเทค (Symantec) ได้มีตรวจสอบและรับฟังความต้องการ ความคิดเห็นของผู้ใช้ และนำไปพัฒนาปรับปรุงเพื่อให้เกิดความประทับใจของผู้ใช้ในเรื่องวิธีการใช้งานที่ง่ายพร้อมยังคงความเข้มงวดในการตรวจจับภัยคุกคามและฟังก์ชันการทำงานที่มากขึ้น
Norton AntiVirus 2011 ได้ปรับปรุงระบบรักษาความปลอดภัยให้เข็มงวดมากขึ้นวางระบบให้เข้าใจกับผู้ใช้งาน เน้นเรื่องความสเถียร ปกป้องระบบของคุณขณะออนไลน์ หรือท่องอินเตอร์เน็ต สามารถดักจับสิ่งกีดขวางรวมไปถึงระบบโจมตีการแนบไฟล์ไวรัส การเข้าเว็บแล้วเจอไวรัสก็จะถูกบล็อกด้วยเทคโนโลยี Norton Safe Web ให้อัตโนมัติ
การติดตั้งทำได้รวดเร็วและง่ายหากคุณมี Norton AntiVirus รุ่นเก่าอยู่ที่คอมพิวเตอร์ของคุณ Norton AntiVirus 2011 ก็จะถอนการติดตั้งให้และแทนที่ด้วย2011 การติดตั้งจะเป็นอะไรที่ง่ายสำหรับผู้ใช้ คลิกเมาส์น้อยครั้งมาก Norton AntiVirus จะทำการติดตั้งโดยอัตโนมัติ

Computer Protection
สำหรับฟีเจอร์ Computer Protection เป็นฟีเจอร์หลักที่ช่วยให้คุณสามารถดำเนินการอย่างรวดเร็วในการสแกนคอมพิวเตอร์ของคุณ แบบ Quick Scan และFull System Scan หรือจะกำหนดการสแกนโฟลเดอร์หรือไดรฟ์ของคุณ ภัยคุกคามใด ๆ ที่ตรวจพบโปรแกรมจะระบุอย่างชัดเจนให้คุณทราบว่าควรจะทำการลบหรือกักกันไว้
คุณจะพบว่ามีการหน่วงเครื่องเพียงเล็กน้อยเมื่อทำการสแกนแบบเต็มระบบ ซึ่งในขณะทำงานสแกนคุณยังสามารถดูวิดีโอความละเอียดสูงหรือเล่นเกมได้อย่างสบาย ในขณะที่ Norton AntiVirus 2011 ทำการสแกนแบบ Background อย่างเงียบๆ
ดียิ่งกว่านั้น Norton AntiVirus 2011 ยังมีระบบจำไฟล์ที่ผ่านการสแกนมาแล้วและจะไม่ทำการสแกนซ้ำ ถ้าไฟล์นั้นไม่มีการเปลี่ยนแปลง วิธีนี้ทำให้การทำงานของ Norton AntiVirus 2011มีความเร็วเพิ่มขึ้นในการสแกน
Security History เป็นฟีเจอร์ที่เก็บข้อมูลการสแกนแล้วเสร็จทั้งหมด คุณสามารถเข้าใช้งานได้ตลอดเวลารวมทั้งมีรายละเอียดอื่นๆ เช่น การพยายามปิดกั้นการบุกรุก  นอกจากนี้คุณยังสามารถตรวจสอบฐานข้อมูลไวรัสของคุณว่าถูกปรับปรุงล่าสุดหรือไม่ Norton AntiVirus 2011 ยังให้คุณสมัครฟรี 1 ปี ในการใช้บริการข้อมูลของไวรัสและมัลแวร์ของ ไซแมนเทค(Symantec) ซึ่งเป็นการช่วยให้คุณอัปเดทข้อมูลในการป้องกันไวรัสและมัลแวร์ได้แบบล่าสุด