อุประกรณ์ Input
เมาส์และคีย์บอร์ดไร้สาย
เมาส์และคีย์บอร์ดไร้สาย
|
ที่มา : http://www.rmutphysics.com/CHARUD/oldnews/265/wireless/cp4_2.html
อุปกรณ์ CPU
โปรเซสเซอร์ Intel® Core™ i7 เจนเนอเรชั่นที่ 2
โปรเซสเซอร์ Intel® Core™ i7 มอบประสิทธิภาพที่ดีที่สุดในระดับเดียวกัน สำหรับแอพพลิเคชันซึ่งต้องการพลังการประมวลผลสูง โปรเซสเซอร์ Quad-core ตัวนี้มีความสามารถด้านมัลติทาสก์ 4 ทาง และ L3 แคช เพิ่มเติม ด้วยประสิทธิภาพที่ปรับได้และความสามารถในการแสดงผลในตัว โปรเซสเซอร์เจนเนอเรชั่นที่ 2 นี้จะนำความชาญฉลาดมาสู่พีซีของคุณมากขึ้น
โปรเซสเซอร์ Intel® Core™ i7 เจนเนอเรชั่นที่ 2 ประกอบด้วย เทคโนโลยี Intel® Turbo Boost2.0 และ Intel® Hyper-Threading Technology ช่วยให้แอพพลิเคชันและโปรโตคอลการรักษาความปลอดภัยที่ต้องการ สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอยู่เบื้องหลัง โดยไม่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน
ความต้องการด้านการสื่อสารที่ซับซ้อนมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในทุกวันนี้จะเป็นจริงได้ด้วย Intel® HD Graphics 2000 Technology ที่ผนวกรวมไว้ในโปรเซสเซอร์ Intel Core เจนเนอเรชั่นที่ 2 ซึ่งขจัดความจำเป็นในการใช้การ์ดกราฟิกแบบแยก ลดการใช้พลังงานและค่าใช้จ่ายของระบบ
ที่มา : http://www.intel.com/th_TH/products/processor/corei7/index.htm
อุประกรณ์ Memory
RC memory DDR3 |
มาตรฐานใหม่กับ BUS ระดับ1333MHz |
กระแสมาแรงในตอนนี้หนีไม่พ้นหน่วยความจำแรมที่เริ่มทยอยออกมากันมากมายมาถึงช่วงนี้ก็ถือว่าเป็นยุคของ DDRII เลย ก็ว่าได้ ถึงขนาดพ่อค้าบางรายเริ่มนำหน่วยความจำนอกมาขายเสียเองแน่นอนครับแรมนำเข้า มาเองจากนอกก็ประกันนอก หรืออาจจะไม่มีประกันก็อยากให้ระวังกันหน่อยนะครับ ว่าจะคุ้มหรือเปล่า ถ้าเกิดหน่วยความจำมีปัญหาจะส่งเคลมนอกเลยก็จะเสียเวลามาก งานที่ทำอยู่อาจต้องเสียเวลาตามไปด้วย
สำหรับอนาคตอันใกล้นี้มาตรฐานหน่วยความจำแบบ DDR3 ก็จะมาแทนที่ DDRII ซึ่ง ก็ได้อยู่ในตลาดมานานพอสมควรแล้ว ในส่วนความพร้อมของเมนบอร์ด ในแต่ละบริษัทผู้ผลิตเมนบอร์ดต่างก็มีผลิตภัณฑ์ออกมาวางตลาด พร้อมกันนั้นยังรองรับหน่วยความจำแบบ DDR3 พร้อมเกือบทุกบริษัทแล้ว โดยตลาดกลางอย่าง chipset P45 นั้นมีให้เลือกมากมาย ส่วนทาง Chipset ของ PlatformAMDคงต้องรออีกสักระยะจึงจะรองรับหน่วยความจำแบบ DDR3
คุณสมบัติผลิตภัณฑ์
RC memory DDR3 ที่ส่งมาทดสอบคือรหัส RC1GX383CA-106JC มีขนาด 1GB ต่อโมดูล รวม 2GB มีความเร็วที่ 1333 MHz ใช้ชิพหน่วยความจำของ RC memory จำนวน 16 ชิพ มีขนาด 64 MB ต่อชิพรวมเป็น 1GB แพ็กเกจที่ให้มาแบบประหยัดเหมือนทั่วๆไป ออกแบบมาให้สามารถทำ Dual Chanel กันได้เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดตามมาตรฐานของDDR3 ใช้ไฟน้อยลงมากเมื่อเทียบกับ DDRII คือ1.8V เหลือเพียง 1.5V เท่านั้น ทำให้ความร้อนสะสมก็ลดลงตามไปด้วยหากเป็นการใช้งานปรกติ overclock นิดหน่อยก็สามารถทำได้ครับ เมื่อทำ Dual Chanel แล้วจะมี bandwidth มากถึง17GB/s ลดปัญหาการรอข้อมูลแบบคอขวดของเมื่อก่อนได้อย่างสมบูรณ์
อุปรกรณ์ Storage
(Blu-ray Disc)
“BD” (Blu-ray Disc) นั้น เป็นชื่อที่มาจากแสงเลเซอร์ที่ใช้คือ แสงเลเซอร์สีน้ำเงิน (Blue Laser) ถูกพัฒนาขึ้นครั้งแรกในปี 1996 โดย นาย Shuji Nakamura ซึ่งเป็นนักวิจัยของ Nichia Corp. BD ใช้เทคโนโลยีแสงเลเซอร์สีน้ำเงิน ที่มีความยาวคลื่นเพียง 405 nm. กับเลนส์ขนาด 0.85 และโครงสร้างแบบ Optical transmittance protection disc layer ที่มีความหนาเพียง 0.1 mm. ทำให้เก็บข้อมูลได้มากถึง 27 กิกะไบต์ ในดิสก์แบบด้านเดี่ยวชั้นเดียว(Single sided single layer) ในแผ่นขนาด 12 เซนติเมตร (เท่ากับ CD และ DVD ทั่วไป) ซึ่งนั่นหมายความว่า เราสามารถเก็บหนังที่มีหลายภาคต่อเนื่องอย่างเช่น Star War หรือหนังชุดอย่าง เช่น เจาะเวลาหาจิ๋นซี ได้ ลงในดิสก์เพียงแค่แผ่นเดียว!
ด้วยความจุที่มีมากถึง 27 กิกะไบต์ BD สามารถบันทึกวิดีโอดิจิตอลในมาตรฐานภาพยนตร์ทั่วๆ ไป (VHS) ได้ถึง 13 ชั่วโมง (แผ่น DVD บันทึกได้ 2-3 ชั่วโมง) และสัญญาณที่มีคุณภาพระดับสูงกว่านั้น หรือ HDTV (High-resolution digital Television) ได้ถึง 2.5 ชั่วโมง (แผ่น DVDบันทึกได้ไม่ถึง 30 นาที) โดยยังรักษาคุณภาพของข้อมูลที่เป็นต้นฉบับไว้อย่างครบถ้วน และนอกจากนี้ BD ยังมีการบันทึก Unique ID (RID) ลงไปเพื่อช่วยในการอ้างอิง และแสดงลิขสิทธ์ใน Record stream อีกด้วย
คุณสมบัติพิเศษของ BD ที่เป็นลักษณะเด่นของการใช้เทคโนโลยี Blu-ray ก็คือ อัตราการถ่ายโอนข้อมูลของเลเซอร์สีน้ำเงิน ที่มีความเร็วสูงถึง 36 Mbps. และใช้เทคโนโลยีการบีบอัดแบบ MPEG-2 Transport Stream ทำให้สามารถบันทึกสัญญาณ หรือข้อมูลคุณภาพสูงได้ โดยใช้เวลาเพียงน้อยนิด ความเร็วนี้ ยังสามารถส่งข้อมูลเพื่อ Record/Playback แบบ Real-time ได้ และยังสามารถแก้ไข , Capture ภาพจากกล้องวิดีโอ หรือภาพยนตร์ไปพร้อมๆ กับการบันทึกรายการในโทรทัศน์ได้ในเวลาเดียวกัน เครื่องเล่น BD จึงสามารถใช้เล่นแผ่น BD และยังบันทึกข้อมูลลงแผ่นได้อีกด้วย
ด้วยความจุที่มีมากถึง 27 กิกะไบต์ BD สามารถบันทึกวิดีโอดิจิตอลในมาตรฐานภาพยนตร์ทั่วๆ ไป (VHS) ได้ถึง 13 ชั่วโมง (แผ่น DVD บันทึกได้ 2-3 ชั่วโมง) และสัญญาณที่มีคุณภาพระดับสูงกว่านั้น หรือ HDTV (High-resolution digital Television) ได้ถึง 2.5 ชั่วโมง (แผ่น DVDบันทึกได้ไม่ถึง 30 นาที) โดยยังรักษาคุณภาพของข้อมูลที่เป็นต้นฉบับไว้อย่างครบถ้วน และนอกจากนี้ BD ยังมีการบันทึก Unique ID (RID) ลงไปเพื่อช่วยในการอ้างอิง และแสดงลิขสิทธ์ใน Record stream อีกด้วย
คุณสมบัติพิเศษของ BD ที่เป็นลักษณะเด่นของการใช้เทคโนโลยี Blu-ray ก็คือ อัตราการถ่ายโอนข้อมูลของเลเซอร์สีน้ำเงิน ที่มีความเร็วสูงถึง 36 Mbps. และใช้เทคโนโลยีการบีบอัดแบบ MPEG-2 Transport Stream ทำให้สามารถบันทึกสัญญาณ หรือข้อมูลคุณภาพสูงได้ โดยใช้เวลาเพียงน้อยนิด ความเร็วนี้ ยังสามารถส่งข้อมูลเพื่อ Record/Playback แบบ Real-time ได้ และยังสามารถแก้ไข , Capture ภาพจากกล้องวิดีโอ หรือภาพยนตร์ไปพร้อมๆ กับการบันทึกรายการในโทรทัศน์ได้ในเวลาเดียวกัน เครื่องเล่น BD จึงสามารถใช้เล่นแผ่น BD และยังบันทึกข้อมูลลงแผ่นได้อีกด้วย
ที่มา : http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=6e17362d3edeb2e9
อุปกรณ์ Output
Samsung Mobile Display
จอแสดงผล Samsung Mobile Display
Samsung Mobile Display ได้ประกาศความสำเร็จในการพัฒนาจอแสดงผล AMOLED ที่สามารถดัดโค้งงอได้ โดยมีขนาดใหญ่ถึง 4.5 นิ้วในงาน FPD-International 2010 ซึ่งความละเอียดของจอแสดงผลที่ได้จะเป็น WVGA (800x480 พิกเซล) ไม่เพียงแต่จะสามารถให้ภาพที่คมชัด สว่างสดใส และประหยัดพลังงานเท่านั้น จอ FOLED ยังมีอัตราการตอบสนองที่เร็วกว่าด้วย นั่นหมายความว่า มันสามารถแสดงภาพเคลื่อนไหวที่มีอาการของภาพค้าง (Ghosting effect) ต่ำมากอีกด้วย
Samsung Mobile Display ได้ พัฒนาจอแสดงผลโดยไม่ใช้แก้วเป็นตัวหลัก แต่จะใช้พลาสติกชนิดพิเศษที่สามารถแสดงผลที่ความละเอียดสูงได้ ในขณะที่มีความยืดหยุ่นสามารถดัดโค้งงอได้เหมือนกระดาษ ทางบริษัทกล่าวว่า ความสำเร็จในครั้งนี้ถือเป็นก้าวที่สำคัญของบริษัทในการที่จะผลิตจอ AMOLED ที่ดัดโค้งงอได้ในอนาคตอันใกล้นี้ (นอกจากจอ Flexible AMOLED ขนาด 4.5 นิ้ว แล้ว ทางบริษัทยังได้โชว์จอ Super-Amoled ขนาด 7 นิ้วในงานฯเดียวกันนี้อีกด้วย คาดว่า น่าจะถูกนำไปใช้กับ Samsung Galaxy Tab ในเวอร์ชันหน้า) ที่มา : http://gedgetshow.blogspot.com/2010/11/samsung-mobile-display-amoled.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น